MOVIE REVIEW AND STORYLINE: MARY POPPINS RETURNS (2018)

Movie Review and Storyline: Mary Poppins Returns (2018)

Movie Review and Storyline: Mary Poppins Returns (2018)

Blog Article

รีวิวหนัง Mary Poppins Returns (2018) แมรี่ ป๊อบปิ้นส์ กลับมาแล้ว


Movie Review and Storyline: Mary Poppins Returns (2018)



ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง:  ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว, แฟนตาซี และ มิวสิคัล


ผู้กำกับ:  Rob Marshall


นักเขียน:  P.L. Travers, David Magee และ Rob Marshall


นักแสดงนำ:  Emily Blunt, Lin-Manuel Miranda และ Ben Whishaw





เรื่องย่อ


Mary Poppins Returns (2018) แมรี่ ป๊อบปิ้นส์ กลับมาแล้ว ถ่ายทำในลอนดอน ท่ามกลางบรรยากาศอันหดหู่ของยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) เรื่องราวเริ่มต้นที่ Michael Banks ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าของครอบครัวพร้อมกับลูกสามคนของเขา ได้แก่ John, Annabel และ Georgie หลังจากการสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รัก Kate เมื่อปีที่ผ่านมา ชีวิตของ Michael ต้องต่อสู้กับทั้งภาระหน้าที่การเลี้ยงดูลูกๆ และปัญหาทางการเงิน เขาจำเป็นต้องกู้เงินจาก Fidelity Fiduciary Bank ซึ่งมี Wilkins เป็นประธานผู้ทุจริต การผ่อนชำระที่ค้างจ่ายมาถึงสามเดือนทำให้ Wilkins ส่งคำเตือนถึงเขา หากไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้ภายในวันศุกร์ บ้านของครอบครัว Banks จะถูกยึดไป ดูหนังฝรั่ง เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่

 

Michael ที่ยังคงเสียใจกับการจากไปของ Kate และรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของลูกๆ เริ่มนึกถึงพ่อผู้ล่วงลับและระลึกได้ว่าพ่อเคยทิ้งใบรับรองหุ้นของธนาคารไว้ให้ ซึ่งน่าจะเพียงพอสำหรับการปลดหนี้ เขาและ Jane น้องสาวของเขาเริ่มค้นหาใบรับรองดังกล่าวในบ้าน ขณะค้นหา Michael พบว่าวของเล่นในวัยเด็กซึ่งเขาไม่เห็นคุณค่าแล้วจึงโยนทิ้งไป ในขณะเดียวกัน เด็กๆ ได้ไปเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน Georgie พบว่าวเก่าและนำไปเล่น ทันใดนั้น Mary Poppins ก็ปรากฏตัวลงมาจากท้องฟ้าพร้อมว่าวในมือ เธอพาเด็กๆ กลับบ้านและประกาศว่าจะมาเป็นพี่เลี้ยงของพวกเขาอีกครั้ง ด้วยพลังวิเศษและท่าทีมั่นใจ เธอช่วยเปิดโลกแห่งจินตนาการให้เด็กๆ ผ่านการผจญภัยในอ่างอาบน้ำซึ่งกลายเป็นมหาสมุทรอันน่าทึ่ง (Can You Imagine That?)

 

Michael เดินทางไปธนาคารเพื่อขอเอกสารยืนยันหุ้น แต่ถูก Wilkins ปฏิเสธและแอบทำลายหลักฐานในสมุดบัญชี Annabel และ John ตั้งใจจะขายชามที่แม่ของพวกเขาเคยหวงแหนเพื่อช่วยชำระหนี้ แต่เกิดทำชามแตกในระหว่างการทะเลาะกับ Georgie เหตุการณ์นี้นำไปสู่การผจญภัยในโลกแฟนตาซีเมื่อ Mary Poppins พาเด็กๆ เข้าไปในภาพวาดบนชามที่แตก และพบกับ Royal Doulton Music Hall (A Cover is Not the Book) แม้ว่าพวกเขาจะถูกสัตว์ที่พูดได้ลักพาตัวไปในโลกนี้ แต่พวกเขาก็สามารถช่วยเหลือกันจนกลับมาอย่างปลอดภัย

 

ความเศร้าจากการสูญเสียแม่ยังคงหลอกหลอนเด็กๆ Mary Poppins จึงร้องเพลงกล่อมเพื่อปลอบโยนพวกเขา (The Place Where Lost Things Go) ต่อมาเด็กๆ ไปพบลูกพี่ลูกน้องของ Mary, Topsy เพื่อหวังให้ช่วยซ่อมชาม แต่พบว่ามันไม่มีมูลค่าทางการเงิน ในระหว่างนี้พวกเขาได้ยิน Wilkins วางแผนยึดบ้านและนำความลับนี้บอก Michael แม้ว่าความตั้งใจดีของเด็กๆ จะนำปัญหามาสู่ครอบครัวชั่วคราว แต่การสนับสนุนจาก Mary และการผจญภัยกับ Jack ผู้จุดตะเกียงก็ช่วยสร้างความหวังใหม่ให้กับพวกเขา (Trip a Little Light Fantastic)

 

ช่วงเวลาสำคัญใกล้เข้ามา ขณะที่ครอบครัวเตรียมย้ายออก Michael พบใบรับรองหุ้นในว่าวเก่าที่ Georgie ซ่อมไว้ ครอบครัวรีบไปธนาคาร และแม้ Wilkins จะพยายามขัดขวางด้วยการปฏิเสธเอกสาร แต่ลุงของเขา Mr. Dawes Jr. กลับมาและไล่ Wilkins ออกจากตำแหน่ง พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินของ Michael เพียงพอที่จะชำระหนี้ ในตอนท้าย ครอบครัว Banks เพลิดเพลินกับงานรื่นเริงในสวนสาธารณะ พวกเขาซื้อลูกโป่งที่พาพวกเขาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า สัมผัสถึงอิสรภาพและความสุขอีกครั้ง เมื่อถึงเวลาที่ Mary Poppins ต้องจากไป เธออำลาครอบครัวด้วยความสุขใจ ขณะที่เธอทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าด้วยร่มคู่ใจ นำพาความอัศจรรย์ไปสู่สถานที่ใหม่ๆ ต่อไป



ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


การสร้างภาคต่อหรือการดัดแปลงเรื่องราวคลาสสิกสำหรับเด็กมักจะเป็นงานที่ท้าทายมาก ผู้สร้างต้องเผชิญกับความคาดหวังของผู้ชมที่มีความทรงจำอันลึกซึ้งเกี่ยวกับต้นฉบับ และต้องสร้างสมดุลระหว่างการเคารพต้นฉบับและการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจให้กับคนดู ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดิสนีย์ได้กลายเป็นผู้นำในการนำเรื่องราวเก่าๆ กลับมาสร้างใหม่ในรูปแบบไลฟ์แอ็กชัน ภาคต่อ หรือภาคแยก ตั้งแต่ Alice in Wonderland, Cinderella และ Beauty and the Beast ไปจนถึง Maleficent และ Christopher Robin แนวทางนี้ได้รับทั้งคำชมและคำวิจารณ์ แต่มันก็แสดงถึงกระแสที่ยังคงเป็นที่นิยมของการหยิบคลาสสิกมาปรับเปลี่ยนใหม่

 

หนึ่งในความพยายามล่าสุดของดิสนีย์คือ Mary Poppins Returns ซึ่งกำกับโดย Rob Marshall โดยถือเป็นภาคต่อของภาพยนตร์เพลงในตำนานของดิสนีย์เรื่อง Mary Poppins (1964) ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการยกย่องอย่างมากในแง่ของดนตรี บทภาพยนตร์ และการแสดงที่น่าจดจำของ Julie Andrews และ Dick Van Dyke ด้วยเหตุนี้ โปรเจกต์นี้จึงมีมาตรฐานสูงลิ่วในการดึงดูดทั้งแฟนหน้าใหม่และผู้ที่หลงรักต้นฉบับ แต่ในความพยายามที่จะสร้างภาคต่อให้ประสบความสำเร็จในแบบของตัวเอง Mary Poppins Returns กลับไม่สามารถบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบที่หลายคนคาดหวัง

 

Mary Poppins Returns พาผู้ชมย้อนกลับไปยังลอนดอนในยุค 1930 ช่วงที่ครอบครัว Banks กำลังเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน หลังการจากไปของภรรยาของ Michael Banks (รับบทโดย Ben Whishaw) ครอบครัวต้องเผชิญกับการสูญเสียครั้งใหญ่ บ้านของพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายจากการถูกยึดทรัพย์หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันเวลา Michael และน้องสาวของเขา Jane (Emily Mortimer) พยายามหาหลักฐานว่า Michael มีหุ้นในธนาคารที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ แต่การค้นหาเอกสารสำคัญกลับกลายเป็นการค้นพบวัตถุในวัยเด็กที่ไม่มีความสำคัญ เช่น ว่าวเก่าๆ เด็กๆ ของ Michael ก็พยายามช่วยเหลือ แต่ด้วยความเป็นเด็ก พวกเขาทำได้เพียงให้กำลังใจ

 

เมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะมืดมน Mary Poppins (Emily Blunt) ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมด้วยไหวพริบเฉียบแหลมและความมั่นใจที่ไม่มีใครเทียบได้ เธอเชิญตัวเองเข้ามาในบ้านของ Banks และช่วยเติมสีสันให้กับชีวิตของเด็กๆ ผ่านการผจญภัยในโลกแฟนตาซี เช่น การดำน้ำลงในแจกันเซรามิกที่แตก (The Royal Doulton Music Hall) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าฉากเหล่านี้จะเต็มไปด้วยสีสันและความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ยังขาดความมีเสน่ห์ที่ทำให้ฉากของต้นฉบับเป็นที่จดจำ Emily Blunt ทำหน้าที่ได้ดีในการรับบท Mary Poppins รุ่นใหม่ เธอเปี่ยมด้วยพลัง ความมั่นใจ และท่าทางที่สะท้อนถึงตัวละครต้นฉบับ แต่ยังเพิ่มความกระฉับกระเฉงและความทันสมัยให้กับตัวละครนี้ ขณะที่ Lin-Manuel Miranda ผู้รับบท Jack คนจุดตะเกียงที่คล้ายกับ Bert ในภาคแรก มีเสน่ห์แต่ยังดูขาดการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับเนื้อเรื่อง เพลงและท่าเต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ เช่น Trip a Little Light Fantastic พยายามเลียนแบบจิตวิญญาณของเพลง Step in Time จากต้นฉบับ แต่กลับขาดพลังและความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ฉากนั้นโด่งดัง

 

การพยายามยึดติดกับโครงสร้างของต้นฉบับมากเกินไป เช่น การใส่ตัวละครอย่าง Cousin Topsy (Meryl Streep) แทน Uncle Albert ในภาคแรก พร้อมกับเพลงประกอบฉากที่ไม่ค่อยน่าจดจำ เช่น Turning Turtle ทำให้ภาพยนตร์ดูเหมือนกำลังพยายามเลียนแบบแทนที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ นอกจากนี้ การแสดงรับเชิญของ Dick Van Dyke และ Angela Lansbury แม้ว่าจะเป็นการเรียกความคิดถึงจากแฟนๆ แต่ก็ไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการขาดหายไปของ Julie Andrews ได้ Mary Poppins Returns อาจสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ชมที่มีความทรงจำเลือนลางเกี่ยวกับต้นฉบับหรือไม่เคยดูมาก่อน แต่สำหรับแฟนๆ ที่คาดหวังภาพยนตร์ที่มีเสน่ห์และมนต์ขลังแบบต้นฉบับ อาจรู้สึกผิดหวัง เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ขาดทั้งเอกลักษณ์ของตัวเองและความแปลกใหม่ที่เพียงพอจะทำให้โดดเด่นจากต้นฉบับ แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรู้สึกว่าเป็น หนังเลียนแบบ ที่ไม่สามารถบรรลุถึงความสูงส่งที่ต้นฉบับได้เคยทำไว้ ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.

 

#MaryPoppinsReturns  #แมรี่ป๊อบปิ้นส์กลับมาแล้ว  #ดูหนังฝรั่ง  #mvhd24  #รีวิวหนัง  #MovieReview  #MovieSpoilers


 


กลับด้านบน

Report this page